หมวดหมู่ :
หมวดที่ ๓ หมวดที่ ๓ การดำเนินกิจการสมาคม ข้อ ๑๓ ให้มีคณะกรรมการบริหารสมาคมคณะหนึ่ง ซึ่งได้มาจากการเลือกตั้งของสมาชิกในที่ประชุมใหญ่ของสมาคม ซึ่งคณะกรรมการดังกล่าวมีได้ไม่น้อยกว่า ๑๐ คน แต่ไม่เกิน ๑๕ คน โดยมีตำแหน่งและหน้าที่พอสังเขป ดังนี้ ๑๓.๑ นายกสมาคม ทำหน้าที่ เป็นหัวหน้าในการบริหารกิจการของสมาคม เป็นผู้แทนของสมาคมในการติดต่อกับหน่วยงานหรือบุคคลภายนอก และทำหน้าที่ประธานในการประชุมกรรมการและการประชุมใหญ่ของสมาคม ๑๓.๒ อุปนายก ทำหน้าที่ เป็นผู้ช่วยนายกสมาคมในการบริหารกิจการสมาคม ปฏิบัติหน้าที่ตามที่นายกสมาคมมอบหมาย และทำหน้าที่แทนนายกสมาคมเมื่อนายกสมาคมไม่อยู่หรือไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ แต่การทำหน้าที่แทนนายกสมาคมอุปนายกตามลำดับตำแหน่งเป็นผู้กระทำการแทน ๑๓.๓ เลขานุการ ทำหน้าที่ เกี่ยวกับงานธุรการทั้งหมดของสมาคม เป็นหัวหน้าเจ้าหน้าที่ของสมาคมและปฏิบัติตามคำสั่งของนายกสมาคม ตลอดจนทำหน้าที่เป็นเลขานุการในการประชุมต่างๆ ของสมาคม ๑๓.๔ เหรัญญิก ทำหน้าที่ เกี่ยวกับการเงินทั้งหมดของสมาคม เป็นผู้จัดทำบัญชีรายรับ รายจ่าย บัญชีงบของสมาคม และเก็บเอกสารหลักฐานต่างๆ ของสมาคมไว้เพื่อตรวจสอบ ๑๓.๕ ปฏิคม ทำหน้าที่ ในการต้อนรับแขกของสมาคม เป็นหัวหน้าในการจัดเตรียมสถานที่ของสมาคมและจัดเตรียมสถานที่ประชุมต่างๆ ของสมาคม ๑๓.๖ นายทะเบียน ทำหน้าที่ เกี่ยวกับการจัดทำทะเบียนสมาชิกทั้งหมดของสมาคม ๑๓.๗ ประชาสัมพันธ์ ทำหน้าที่ เผยแพร่กิจกรรมและชื่อเสียงเกียรติคุณของสมาคมให้แก่สมาชิกและบุคคลทั่วไปได้รับทราบและรู้จักอย่างแพร่หลายรวมทั้งประสานงานกับมหาวิทยาลัยเกี่ยวกับด้านข่าวสารของสมาชิกเพื่อจัดทำเป็น “จดหมายข่าวสมาคมศิษย์เก่า” ของคณะวิศวกรรมศาสตร์และมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ๑๓.๘ กรรมการตำแหน่งอื่นๆ ตามความเหมาะสมที่คณะกรรมการบริหารสมาคมเห็นสมควรจะกำหนดให้มีขึ้น โดยมีจำนวนเมื่อรวมกับกรรมการข้างต้นแล้วจะต้องไม่เกินจำนวนที่ข้อบังคับกำหนดไว้ และถ้ามีคณะกรรมการที่มิได้กำหนดตำแหน่งไว้ให้ถือว่าเป็นกรรมการกลาง ข้อ ๑๔ คณะกรรมการบริหารสมาคม อยู่ในตำแหน่งคราวละ ๒ ปี และเมื่อคณะกรรมการบริหารสมาคมอยู่ในตำแหน่งครบตามกำหนดวาระแล้ว ให้สามารถรักษาการต่อไปจนกว่าจะมีการเลือกตั้งเพื่อสรรหาคณะกรรมการบริหารสมาคมชุดใหม่ และเมื่อได้คณะกรรมการบริหารสมาคมชุดใหม่แล้วและคณะกรรมการชุดใหม่ได้รับอนุญาตให้จดทะเบียนจากทางราชการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จะต้องส่งมอบงานให้กันให้เสร็จสิ้นภายใน ๓๐ วัน นับตั้งแต่วันที่คณะกรรมการชุดใหม่ได้รับอนุญาตให้จดทะเบียนจากทางราชการ ข้อ ๑๕ ตำแหน่งกรรมการสมาคม ถ้าต้องว่างลงก่อนครบกำหนดวาระ ก็ให้คณะกรรมการบริหารสมาคมแต่งตั้งสมาชิกสามัญคนใดคนหนึ่งที่เห็นสมควรเข้าดำรงตำแหน่งแทนตำแหน่งที่ว่างลงนั้น แต่ผู้ดำรงตำแหน่งแทนอยู่ในตำแหน่งได้เท่ากับวาระของผู้ที่ตนแทนเท่านั้น ยกเว้นหากตำแหน่งนายกสมาคมว่างลง ให้ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารสมาคมพิจารณาเลือกคณะกรรมการบริหารสมาคมคนใดคนหนึ่งเข้ามาดำรงตำแหน่งแทน ข้อ ๑๖ กรรมการบริหารพ้นจากตำแหน่ง ซึ่งมิใช่เป็นการออกตามวาระด้วยเหตุผลต่อไปนี้ คือ ๑๖.๑ ตาย ๑๖.๒ ลาออก ๑๖.๓ ขาดจากการเป็นสมาชิกภาพ ๑๖.๔ ที่ประชุมใหญ่มีมติให้ออกจากตำแหน่ง ๑๖.๕ คณะกรรมการบริหารสมาคมได้พิจารณาลงมติให้พ้นจากการเป็นสมาชิกภาพด้วยคะแนน ๒ ใน ๓ เนื่องจากสมาชิกผู้นั้นได้พฤติตนนำความเสื่อมเสียมาสู่สมาคม ๑๖.๖ ขาดการประชุมคณะกรรมการบริหารติดต่อกันเกิน ๓ ครั้ง โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร ข้อ ๑๗ คณะกรรมการบริหารคนใดที่ประสงค์จะลาออกจากตำแหน่งให้ยื่นใบลาออกเป็นลายลักษณ์อักษร ข้อ ๑๘ คณะกรรมการบริหารจะต้องจัดให้มีการประชุมอย่างน้อย ๔ เดือนต่อ ๑ ครั้ง เพื่อพิจารณาถึงการบริหารกิจการของสมาคม การกำหนดการประชุมให้อยู่ในดุลยพินิจของประธานกรรมการบริหาร และให้เลาขานุการสมาคมเป็นผู้แจ้งกำหนดการประชุมเป็นลายลักษณ์อักษรให้คณะกรรมการบริหารทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า ๗ วัน ข้อ ๑๙ การจัดการประชุมตามข้อ ๑๘ ต้องมีคณะกรรมการบริหารสมาคมเข้าร่วมอย่างน้อยเกินกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนคณะกรรมการบริหารสมาคมทั้งหมดจึงจะถือว่าครบองค์ประชุม มติต่างๆ ในการประชุมถ้าข้อบังคับมิได้กำหนดไว้เป็นอย่างอื่นให้ถือคะแนนเสียงข้างมากเป็นเกณฑ์ แต่ถ้าคะแนนเสียงเท่ากันให้ประธานในที่ประชุมเป็นผู้ชี้ขาด ข้อ ๒๐ การจัดการประชุมตามข้อ ๑๘ จะเกิดขึ้นได้อีกวิธีหนึ่ง คือ คณะกรรมการบริหารสมาคมไม่น้อยกว่า ๑ ใน ๓ ของคณะกรรมการบริหารสมาคมทั้งหมดเข้าชื่อกันและทำหนังสือร้องขอต่อนายกสมาคม ขอให้มีการประชุมคณะกรรมการบริหารสมาคมขึ้น โดยนายกสมาคมจะต้องจัดให้มีการประชุมคณะกรรมการบริหารสมาคมขึ้นภายใน ๓๐ วันนับตั้งแต่วันที่ได้รับหนังสือร้องขอ ข้อ ๒๑ ในการจัดการประชุมตามข้อ ๑๘ หากนายกหรืออุปนายกสมาคมไม่อยู่หรือไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้ที่ประชุมตั้งคณะกรรมการบริหารคนหนึ่งซึ่งอยู่ในที่ประชุมนั้นขึ้นทำหน้าที่เป็นประธานในที่ประชุมในคราวนั้น ข้อ ๒๒ อำนาจและหน้าที่ของคณะกรรมการบริหารสมาคม ๒๒.๑ มีอำนาจออกระเบียบปฏิบัติต่างๆ เพื่อให้สมาชิกได้ปฏิบัติตาม โดยระเบียบปฏิบัติที่ออกมานั้นต้องไม่ขัดต่อข้อบังคับฉบับนี้ ๒๒.๒ มีอำนาจแต่งตั้ง และถอดถอนเจ้าหน้าที่ของสมาคม ๒๒.๓ มีอำนาจแต่งตั้งกรรมการที่ปรึกษาหรืออนุกรรมการได้ แต่กรรมการที่ปรึกษาหรืออนุกรรมการจะสามารถอยู่ในตำแหน่งได้ไม่เกินวาระของคณะกรรมการบริหารที่แต่งตั้ง ๒๒.๔ มีอำนาจเรียกประชุมใหญ่สามัญประจำปีและประชุมใหญ่วิสามัญ ๒๒.๕ มีอำนาจในการแต่งตั้งกรรมการในตำแหน่งอื่นๆ ที่ยังมิได้กำหนดในข้อบังคับนี้ ๒๒.๖ มีอำนาจบริหารกิจการของสมาคม เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ตลอดจนมีอำนาจอื่นๆ ตามที่ข้อบังคับกำหนดไว้ ๒๒.๗ มีหน้าที่รับผิดชอบในกิจการทั้งหมด รวมทั้งการเงินและทรัพย์สินทั้งหมดของสมาคม ๒๒.๘ มีหน้าที่ในการจัดการประชุมใหญ่วิสามัญ ตามที่สมาชิกจำนวนไม่น้อยกว่า ๑ ใน ๓ ของสมาชิกทั้งหมดหรือจำนวนไม่น้อยกว่า ๕๐ คน เข้าชื่อกันและทำหนังสือร้องขอต่อนายกสมาคม ขอให้มีการประชุมใหญ่วิสามัญขึ้น โดยนายกสมาคมจะต้องจัดให้มีการประชุมคณะกรรมการบริหารสมาคมขึ้นภายใน ๓๐ วันนับตั้งแต่วันที่ได้รับหนังสือร้องขอ ๒๒.๙ มีหน้าที่จัดทำเอกสารและเก็บเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการบริหารกิจการของสมาคม การเงิน ทรัพย์สิน และทะเบียนสมาชิกของสมาคม ซึ่งพร้อมที่จะให้สมาชิกตรวจสอบได้เมื่อได้รับการร้องขอ ๒๒.๑๐ จัดทำบันทึกการประชุมต่างๆ ของสมาคม เพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐานและเผยแพร่ให้สมาชิกของสมาคมได้รับทราบ |